วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

คำศัพท์ที่น่าสนใจ(ร่างกาย)

คำศัพท์ร่างกาย


 
ศีรษะ 1. head
ผม   2. hair
หน้าผาก   3. forehead
ขมับ   4. temple
ใบหน้า   5. face
ตา   6. eye
คิ้ว 7. eyebrow
หนังตา 8. eyelid
ขนตา 9. eyelashes
ม่านตา 10. iris
รูม่านตา 11. pupil
กระจกตา 12. cornea
ใบหู 13. ear
ติ่งหู 14. earlobe
จมูก 15. nose
รูจมูก 16. nostril
แก้ม 17. cheek
ขากรรไกร18. jaw
ปาก 19. mouth
ริมฝีปาก 20. lip
ฟัน 21. tooth-teeth
ลิ้น 22. tongue
คาง 23. chin
จอนหู 24. sideburn
หนวด 25. mustache
เครา 26. beard
คอ 27. neck
ไหล่ 28. shoulder
หน้าอก 29. chest
ท้อง 30. abdomen
แผ่นหลัง 31. back
แขน 32. arm
รักแร้ 33. armpit
ข้อศอก 34. elbow
เอว 35. waist
สะโพก 36. hip
ก้น 37. buttocks
ขา 38. leg
ต้นขา 39. thigh
หัวเข่า 40. knee
น่อง 41. calf
หน้าแข้ง 42. shin 

ตัวอย่าง
A: Ooh!
B: What is the matter?
A: My ....chest hurts!


ขอขอบคุณจากเว็บhttp://www.webms5.nmm.ac.th/www/web_2547/475213/010.html
 
 

บทเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

บทเรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ( Learning English Online )
  • บทเรียนภาษาอังกฤษนี้มีวัตถุประสงค์ให้เป็นการกระตุ้นและ ฟื้นฟูความรู้ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยเฉพาะที่ปฏิบัติงานในท้องที่ห่างไกล เช่นโรงพยาบาลชุมชน สถานีอนามัยซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่าน ตำราเรียนภาษาอังกฤษ และฝึกฝนบทเรียน
  • ผู้เขียนได้ใช้เวลาในการค้นคว้าศึกษาตำราเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้ง search บทเรียนใน internet จาก web site ต่างๆ โดยเฉพาะจาก web site ของมหาวิทยาลัย   ซึ่งจะมีบทเรียนภาษาอังกฤษ ไว้สำหรับ นักศึกษา ต่างชาติ     และ web site ที่เป็นการเรียนการสอน English As a Second Language ( ESL )พร้อมแบบฝึกหัด   ผู้เขียนได้จัดทำ List ของ Web site เหล่านี้ไว้เพื่อความสะดวกสำหรับผู้สนใจ ในการศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมต่อไป
  • ส่วนที่ผู้เรียนไม่สามารถหาได้จากการอ่านตำราทั่วไปคือ   Listening    ได้มีการรวบรวม Link ด้านนี้ไว้ด้วย  แต่การฟัง อาจไม่สะดวกเท่าที่ควร เนื่องจากความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่าน modem ยังไม่เพียงพอ       อย่างไรก็ดีผู้เรียนควรจะ Download โปรแกรม Multimedia ต่างๆ ไว้เพื่อการฟังเสียง ดูภาพเคลื่อนไหว เช่น    โปรแกรม Real Player, Flash, Quicktime เป็นต้น รวมทั้ง Acrobat  Reader เพื่อการอ่าน PDF file   สำหรับโปรแกรมเหล่านี้มี Link ให้ไป download ได้ที่ Web site ของกระทรวงสาธารณสุข(http://www.moph.go.th/download/ ) 
  • สุดท้ายคือได้รวบรวมแบบทดสอบภาษาอังกฤษต่างๆ เช่น TOEFL,TOEIC จาก website ต่างๆและบทเรียนพร้อมตัวอย่างข้อสอบของกรมวิเทศสหการ ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดสรรทุนต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางการสอบของผู้ที่ต้องการรับทุนด้วย

    หมายเหตุ   หากเห็นว่าตัวหนังสือในบทเรียนนี้เล็กไป  โปรดเลือก Text Size  ใน View ที่ Menu Bar ให้เป็นขนาด Larger

Table of Contents

1. Parts of Speech
  คำอธิบายเบื้องต้น
 

Adjectives ( คำคุณศัพท์ )

  

ตำแหน่งของคุณศัพท์ (Position) 
ชนิดของคุณศัพท์ (Types)
การทำให้เป็นคำคุณศัพท์ ( Formation) 
การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ ( Comparison)
Articles ( การใช้ a/an)
 
การใ้  the
คำนามที่ไม่ต้องใช้  article
Determiners
 

 

Adverb (คำกริยาวิเศษณ์)

  

ชนิดของกริยาวิเศษณ์ ( Types ) 
การทำให้เป็นกริยาวิเศษณ์  ( Formation )

 

Nouns  (คำนาม)

  ชนิดของคำนาม ( Types)
นามนับได้/นับไม่ได้ ( Countable/Uncountable )
นามเอกพจน์/พหูพจน์ ( Singular/Plural)
Subject-Verb Agreement
 

Pronouns (คำสรรพนาม )

  ชนิดของคำสรรพนาม (Types)
 

Verbs ( คำกริยา )

  ชนิดของคำกริยา ( Types )
Verb Tenses 
Present Tenses
Past Tenses
Future Tenses
Continuous/Non-continuous Verbs
Active & Passive Voices
Moods
Auxiliary or Helping Verbs
Phrasal Verbs
Sequence of Tenses
Participles, Infinitives, Gerunds
Conditional Verb Forms
Linking Verbs
 

Prepositions ( คำบุพบท)

  Direction
Location
Spatial  Relationship
Time, Place and to Introduce Objects
 

Conjunctions  ( คำสันธาน )

  ชนิดของคำสันธาน  ( Types )
 

Interjections ( คำอุทาน)


ขอขอบคุณจากเว็บhttp://ict.moph.go.th/English/Eindex.htm

   

 

 

 

 

    2.Sentence Structure (โครงสร้างประโยค)

    Basic Sentence Patterns and Types
    Basic Parts of Sentences
    Independent and Dependent Clauses
    Subject and Verb Agreement
    Parallel Structure
    Sentence Fragments
    Sentence Punctuation Patterns
    Sentence Diagramming 

    3. Clauses ( อนุประโยค)
     ชนิดของอนุประโยค ( Types)
    4.Phrases ( วลี )
     ชนิดของวลี (Types)
    5. Punctuation & Capitalization
     Apostrophes and Quotation Marks
    Commas
    Hyphens
    Other TypesPunctuation
    Sentence Puncuation
    Capitalization
    6. แบบฝึกหัดรวม
     
    7. Spelling
     
    8. Word Building
     
    9. Common Errors in English (Links)
     
    10. Reading/Listening ( Links)
     
    11. American and British English Usage
     
    12.เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองของกรมวิเทศสหการ
     
    13.ตัวอย่างข้อสอบต่างๆ
     กรมวิเทศสหการ
     TOEFL,TOEIC
     Test Preparation ( TOIEC)
     Review the TOEFL Test
     TOEFL Practice Questions
     TOEFL QUIZZES
     Free English Test for TOEIC and TOEFL
     TOEIC Practice Session
     TOEIC Practice Tests
    14. Dictionaries online
      Merriam-Webster Online
    Longman Web Dictionary 
    The American Heritage Dictionary of the English Language 
    Cambridge Dictionaries Online
     
    15. Links เรียนภาษาอังกฤษจาก Web site 
     
    16. เอกสารและเว็บอ้างอิง (References)
     

    สัตว์ที่น่ารัก --->เม่นแคระ

    ทำความรู้จักกับเจ้าเม่นน้อย

    SCIENTIFIC NAME ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Atelerix albiventris
    COMMON NAME ชื่อสามัญ : African pygmy hedgehog
    LIFE SPAN อายุขัย : เม่นแคระอยู่ได้นานถึง 10 ปี
    RANGE ถิ่นกำเนิด: แอฟริกากลาง

     

    INTRODUCTION: มาทำความรู้จักเม่นแคระกันก่อน : เม่นแคระเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆที่ชอบกินแมลงเป็นชีวิตจิตใจ หลังของมันจะปกคลุมด้วยหนาม(spine) ส่วนใต้ท้องปกคลุมด้วย ขนนิ่มๆสีขาว สีของเม่นแคระแบ่งได้หลายเฉดสีตั้งแต่ขาว ส้ม
    น้ำตาลอ่อน จนถึง ดำ เจ้าเม่นแคระเนี่ยถ้ามันอยู่ตามธรรมชาติ จะอยู่ได้แค่3-4ปีเท่านั้น แต่ปัจจุบันในแถบอเมริกาเหนือ
    จนถึงแคนาดานิยมเลี้ยงเม่นแคระเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มันมีอายุได้นานถึง 10 ปี เม่นเป็นสัตว์ที่สายตา
    ไม่ค่อยดีนักแต่มันจะหูดีและมีจมูกที่ดมกลิ่นได้ดีมาก มันเป็นสัตว์ตื่นกลางคืนนอนกลางวัน(nocturnal) เวลามันตกใจ หรือ
    กลัว มันก็จะม้วนตัวกลมเป็นลูกบอล เม่นแคระสามารถทำให้เชื่องได้โดยผู้เลี้ยงจะต้องทำความคุ้นเคยกับเจ้าเม่นเสียก่อน ให้
    เค้าจำกลิ่นของผู้เลี้ยงได้ อาจจะป้อนอาหารด้วยมือ หรือจับตัวเค้ามาเล่นบ่อยๆ จะ ทำให้เค้ารู้สึกว่าเราเป็นมิตร และ ปลอดภัยต่อเค้า



    HOUSING: 
    เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ปีนเก่งมาก จึงไม่ควรเลี้ยงในกรงหนูแฮมสเตอร์หรือภาชนะใดๆที่สามารถให้มันปีนได้ เพราะอาจจะทำให้ขามันหัก ควรจะเลี้ยงใส่กล่องที่มีขนาด สูง 12นิ้ว กว้าง 16นิ้ว และ ยาว 24นิ้ว เป็นอย่างต่ำ

    วันลอยกระทง

     วันลอยกระทงตรงกับวันขึ้น 15 คำ เดือน 12 ประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยประมาณ 700 ปีมาแล้ว

            ประเพณีลอยกระทงได้เข้าสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีประมาณ พ.ศ. 1800 ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศ ผู้เป็นพระสนมเอกของพระร่วงเจ้าว่า "ครั้นวันเพ็ญเดือน 12 ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่างๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้ป็นลวดลาย..." เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงมีพระราชโองการฯให้จัดพิธีลอยกระทงเป็นประจำทุกปี ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองพระราชพิธีนี้จึงได้ถือปฏิบัติเป็นประจำจนกระทั่งบัดนี้

    ประวัติความเป็นมา

            ประเพณีลอยกระทงมีมานานจนสืบประวัติไม่ได้ และไม่มีในคัมภีร์ทางศาสนาเสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน) ได้ค้นคว้าที่มาของประเพณีลอยกระทงไทยทุกภาคตลอดจนถึงประเทศใกล้เคียงคือ พม่า กัมพูชา จีน อินเดีย ได้ความว่ามีประเพณีลอยกระทงทุกประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ กัน

            สรุปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้

            1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนำท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุษย์มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในนำด้วย

            2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย

            3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์

            4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถปราบพญามารได้

            การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ขอให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่นำลำคลอง

     หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข้อมูลโดยละเอียดได้ที่

    http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/poonsak/loykratong/index.html