วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

กิจกรรม รณรงค์ "งดเหล้า เลิกบุหรี่พรรษานี้เพื่อครอบครัว

กิจกรรม รณรงค์ "งดเหล้า เลิกบุหรี่พรรษานี้เพื่อครอบครัว"จัดโดย โรงเรียนฝางธรรมศึกษา (พระปริยัติรรม) อ.ฝาง จ.เชียงใหม่อยากให้นักข่าวได้มีส่วนในการมาทำข่าวและประชาสัมพันธ์ให้สังคมรับทราบก่อนเข้าพรรษานี้ ให้สังคมไทยสงบสุข ช่วยบอกต่อไปด้วยนะครับเจริญพร
google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ญี่ปุ่นสร้างโรงงานผัก

ญี่ปุ่นสร้างโรงงานผัก
วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6769 ข่าวสดรายวันญี่ปุ่นสร้างโรงงานผักนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพัฒนาวิธีใหม่ในการปลูกผัก ซึ่งอาจเป็นวิธีการปลูกพืชการเกษตรในอนาคต ใน "โรงงานผัก" ของบริษัทโอสุ มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมทุกๆ อย่าง เช่น แสง น้ำ ความชื้น อุณหภูมิ ไม่ใช้ดิน ไร้แมลง ไม่มีอากาศจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามา แม้แต่ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ผู้ที่ทำงานอยู่ใน "โรงงานผัก" ต้องใส่ถุงมือ หน้ากาก เสื้อผ้าพิเศษที่ใส่ดูแล้วเหมือนกับเป็นนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองมากกว่าเป็นคนงาน ทั้งยังมีการรักษาความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อวิธีปลูกไม่ธรรมดา ราคาก็ต้องไม่ธรรมดาตามไปด้วย ผู้ที่ซื้อส่วนมากเป็นผู้มีฐานะดี เนื่องจากไม่มีการใช้ปุ๋ย สารเคมี ยาฆ่าแมลง และอยู่ในที่สะอาด บรรดาผักจึงนำมากินได้เลยโดยไม่ต้องล้าง"โรงงานผัก" มีแสงส่องสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ผักจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างผักกาดหอมสามารถเวียนปลูกได้ 20 ครั้งต่อปี การสร้าง "โรงงานผัก" ยังมีแนวโน้มมากขึ้น เพราะรัฐบาลสนับสนุนการปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมี ทั้งยังไม่เปลืองเนื้อที่เพาะปลูก ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย ที่เหนืออื่นใดคือปลอดภัยต่อผู้บริโภค
http://www.matichon.co.th/khaoso ... 09TMHdOaTB4TVE9PQ==

ข้อดีของการดื่มนำบรรเทาหวัด

6 ข้อดีดื่มน้ำบรรเทาหวัด
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก ทำให้หลายคนที่ไม่ค่อยได้ดูแลสุขภาพเป็นพิเศษมักเป็นหวัดได้ง่าย "โรคหวัด" เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สบายเนื้อสบายตัว ทำให้มีอาการปวดศรีษะ ตัวร้อน น้ำมูกไหล ไอ จาม มีเสมหะ ถ้าไม่ดูแลรักษาตัวให้ดีอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ เมื่อเป็นหวัดแนะนำว่าควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ลิตรเพราะน้ำสามารถช่วยเยียวยาร่างกายให้หายจากหวัดได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุที่ว่า.. 1. น้ำช่วยละลายเสมหะไม่ให้เหนียว โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่น 2. ช่วยลดไข้หากไข้ขึ้นสูง น้ำนี่แหล่ะที่จะช่วยทำให้ร่างกายเย็นลงได้ 3. ช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี 4. ช่วยให้เยื้อบุจมูกที่บุช่องทางเดินหายใจส่วนบนทำหน้าที่ได้ดีขึ้น จึงช่วยลด อาการคัดจมูก 5. ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และอักเสบ 6. ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายฟื้นจากอาการไข้ได้เร็วขึ้น นอกจากนั้น หากอยากดื่มเครื่องดื่มที่มีรสชาติมากขึ้น แนะนำให้ลองดื่มน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำกีวี น้ำมะเขือเทศ ฯลฯ เพราะวิตามินซีช่วยให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น ส่วนคนที่มีอาการเจ็บคอสามารถบรรเทาอาการโดยใช้เกลือละลายน้ำอุ่นกลั้วคอ 2-3 วันติดต่อกันอาการจะทุเลาลงโดยไม่ต้องใช้ยาค่ะ ที่มา : บริการชีวจิตโฟน นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 191 ปีที่ 8 กันยายน 2549

อาหารและยาเตือนอันตราย

เตือนอย่าซื้อน้ำผลไม้ขวดสเปรย์ไม่มี อย.
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เวลา 17:16 น. ข่าวสดออนไลน์
http://www.matichon.co.th/khaoso ... E5EWXlPVEEyT1E9PQ==เตือนอย่าซื้อน้ำผลไม้ขวดสเปรย์ไม่มี อย. เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. นางนัทธมน ยิ้มแย้ม รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ราชบุรี นางวรลักษณ์ อนันตระกูล เภสัชกรชำนาญการ รักษาการหัวหน้าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบน้ำผลไม้ที่บรรจุอยู่ในขวดสเปรย์มีสติ๊กเกอร์ติดว่าน้ำผลไม้หลายสีสัน ที่โรงเรียนวัดเขาวังราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจากอาจารย์กิจจา แสงสว่าง อาจารย์ 2 ระดับ 7 ซึ่งเป็นอาจารย์ในวิชาพลศึกษาของโรงเรียนวัดเขาวัง ว่าได้ทำการยึดขวดน้ำผลไม้แบบสเปรย์มาจากเด็กนักเรียนมากกว่า 100 ขวด ตรวจสอบทางโรงเรียนแจ้งว่าเนื่องจากเด็กเรียนในโรงเรียนแห่กันซื้อสเปร์ยน้ำหวานมาจากร้านขายขนมหน้าโรงเรียน แล้วนำมาฉีดใส่ปาก และฉีดเล่นใส่หน้าเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ทางโรงเรียนเกรงว่าจะมีอันตรายต่อเด็ก จึงได้ขอให้ทางสาธารณสุขจังหวัดมาตรวจสอบพบว่าขวดน้ำผลไม้ที่ทางโรงเรียนยึดมาได้ สูงประมาณ 8-10 ซม. เป็นขวดพลาสติก มีสีสันหลากสีมีรูปผลไม้ ด้านนอกขวดติดฉลากภาษาต่างชาติหลายภาษา มีทั้งภาษาพม่า ภาษาจีน มีวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ นอกจากนี้ยังมีตัวสารอาหารติดไว้ที่ข้างขวด มีทั้งกรดซิตริค โปรตัสเซียม และกลิ่นผลไม้ต่างๆ ทั้ง ส้ม องุ่น มะนาวและกลิ่นโคล่า โดยใช้ชื่อ แคนดี้ ไซรับ (Candy syrup) ระบุผลิตในประเทศจีน ภายในขวดมีน้ำผลไม้ตามสีและกลิ่นของผลไม้ มีฝาปิดที่เป็นฝาขวดสเปรย์ไว้สำหรับฉีดใส่ปาก ขายในราคาขวดละ 5 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่เด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆเป็นอย่างมาก นางนัทธมน กล่าวว่า หลังจากทางโรงเรียนได้เก็บขวดน้ำดังกล่าวมาจากเด็กนักเรียน จะต้องนำน้ำผลไม้ในขวดไปตรวจสอบว่ามีสารอาหารตามที่ระบุไว้ข้างขวดหรือไม่ และที่เห็นความผิดชัดคือไม่มี อ.ย.รับรอง ซึ่งจะต้องตรวจสอบตามร้านค้าที่นำมาขายด้วยว่ารับมาจากที่ใด และเป็นที่น่าสังเกตว่าการติดฉลากสินค้านั้นมีการติดกลับหัว คล้ายกับรีบติดฉลากเพื่อให้ทันกับความต้องการของลูกค้า จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย แต่อาศัยชื่อของต่างประเทศเพื่อให้มองดูเป็นสินค้านำเข้า นอกจากนี้ก็จะต้องขอความร่วมมือร้านค้าอย่านำสินค้าชิ้นนี้มาขายเนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่มี อย. รับรอง และหากพบว่ายังมีการวางจำหน่ายอยู่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ป้องกันเส้นเลือด->ด้วยช้อกโกแลต

ป้องกันเส้นเลือดอุดตันด้วย ช็อกโกแลตดำ
นักวิจัยพบว่าช๊อกโกแลตดำเพียงวันละสองช้อนโต๊ะ หรือจะแปรรูปเป็นโกโก้ร้อน 1 แก้ว ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดได้พอๆ กับการกินยาแอสไพริน โครงการศึกษาผลจากยาแอสไพรินที่มีผลต่อเกร็ดเลือด โดยศาสตราจารย์ไดแอนน์เบกเกอร์ ผู้นำการวิจัยของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดให้กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกาย งดบุหรี่ และอาหารบางอย่าง เช่น ไวน์ ชากาแฟ และช๊อกโกแลตก่อนเข้ารับการทดลอง หลังจากนั้นนักวิจัยทำการเปรียบเทียบ ระยะเวลาที่เกล็ดเลือดจับตัวกันเป็นก้อน พบว่าเกล็ดเลือดของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่งดช๊อกโกแลต มีเกล็ดเลือดจับตัวกันช้ากว่า กลุ่มนักวิจัยจึงศึกษาเพิ่มเติมคุณสมบัติของเมล็ดโกโก้ และพบว่าในเมล็ดโกโก้มีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่มีผลทางชีวเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นเลือด และหลอดเลือดอุดตันที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด ก่อนหน้านี้ก็ได้มีรายงานการวิจัยที่ออกมาสนับสนุนประโยชน์ของช๊อกโกแลตอย่างต่อเนื่องอาทิ พบว่าในช๊อกโกแลตมีสารเพนเทเมอร์ที่ช่วยยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ แม้ว่าสารเคมีที่อยู่ในเมล็ดโกโก้จะมีผลดีต่อการไหลเวียนของโลหิตได้ดี แต่หากว่าร่างกายได้รับไขมันและน้ำตาลที่มากเกินไปก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อหัวใจของคุณได้เช่นกันที่มา : คอลัมน์ Living Beware นิตยสาร ใกล้หมอปีที่ 30 ฉบับที่ 12 เดือนธันวาคม 2549